ใครๆ ก็อยากหุ่นดี ไม่มีไขมันส่วนเกิน และแน่นอนว่าการออกกำลังกาย ควบคุมอาหารคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่บางส่วนของร่างกายก็ลดได้ยากเหลือเกินอย่างเช่นใต้แขน พุง ต้นขา หรือสำหรับบางคนอาจมีข้อจำกัดในชีวิตที่ไม่สามารถออกกำลังได้มากจนถึงขั้นลดสัดส่วนได้ ถ้าเช่นนั้นจะทำอย่างไร มีเทคนิคใดที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว และไม่อันตรายบ้าง เรามีวิธีดีๆ มาฝากกัน
... Cool Sculp เทคโนโลยีเพื่อคนอยากลดสัดส่วน...
Cool Sculp คืออะไร
Cool Sculp คือ เทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นในระดับอุณหภูมิติดลบถึงลบ 10 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังช่วยในการลดสัดส่วนแบบเฉพาะจุด โดยใช้หัวเครื่องมือขนาดใหญ่ดูดไขมันเข้ามาและปล่อยพลังงานความเย็นเข้าไป Freeze เพื่อให้ความเย็นทำลายเซลล์ไขมัน ณ จุดที่มีการดูดขึ้นมาเท่านั้น
โดยเซลล์ไขมันจะค่อยๆ ตาย และจะถูกขับหรือระบายออกจากร่างกายไปตามกลไกธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นผลภายหลังจากที่ทำประมาณ 1-3 เดือน โดยไขมันจะยุบประมาณ 3-5 เซนติเมตร เลยทีเดียว
บริเวณใดในร่างกายที่สามารถลดสัดส่วนด้วย Cool Sculp?
จุดที่สามารถทำได้ ได้แก่ บริเวณพุง บริเวณใต้สะดือ บริเวณเหนือสะดือ บริเวณใต้แขน และบริเวณขาด้านใน และสำหรับจุดที่พบผู้ใช้บริการทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลือกทำบ่อยก็คือ พุง
ความโดดเด่นของ Cool Sculp
- สามารถช่วยกำจัดเซลล์ไขมันเฉพาะส่วนได้เลย ไม่ใช่แค่เพียงลดขนาดไขมัน
- เป็นการทำที่บริเวณผิวภายนอก ไม่เจ็บ ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่ใช่การฉีดยา จึงไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถสลายไขมันได้หลายจุดไปพร้อมๆ กัน
- ก่อนทำจะมีการทาเจลเย็นทำให้รู้สึกสบายผิว
- สามารถทำได้ทุกคน ระหว่างทำสามารถนอนอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา
- ขณะทำจะรู้สึกว่ามีการดูด ณ จุดที่ทำ แต่จะไม่รู้สึกถึงความเย็นที่ปล่อยเข้าไป
- ใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
การดูแลตัวเองภายหลังทำ
ผิวบริเวณที่ทำจะมีลักษณะบวมแดง แต่จะค่อยๆ หายได้เองภายใน 24 ชม. และภายหลังการทำควรให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ควบคู่กับดูแลเรื่องอาหาร ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล เหตุผลที่เราเน้นเรื่องนี้เนื่องจาก การทำ Cool Sculp สามารถช่วยสลายเซลล์ไขมันได้แล้วนั่นแปลว่าจะไม่กลับมาอีก แต่ขณะเดียวกันถ้าคุณไม่ดูแลโภชนาการก็เท่ากับคุณเพิ่มไขมันใหม่เข้ามาสู่ร่างกายของคุณอีกครั้ง
Cool Sculp เรียกได้ว่า คือ คำตอบที่ทุกคนตามหา เพราะสามารถสลายไขมันในบริเวณที่ลดสัดส่วนได้ยากให้เกิดขึ้นได้จริง